ประเทศไทยถือว่าเป็นหนึ่งในแลนมาร์กที่ชาวต่างชาติอยากมาใช้ชีวิตและทำธุรกิจ หลังจากวิกฤต COVID-19 เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจจากนักลงทุนต่างชาติด้วยการอนุมัติวีซ่าประเภทใหม่ Long – Term Resident Visa หรือ LTR Visa แล้ว ยังมีการปรับเปลี่ยนข้อกำหนดของมาตราการสำหรับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติในประเทศไทยฉบับล่าสุดอีกด้วย เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่นักลงทุนชาวต่างชาติที่มีคุณสมบัติพร้อมตามข้อกำหนดให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย
คุณสมบัติของชาวต่างชาติที่สามารถซื้ออสังหาริทรัพย์ในไทย
- กลุ่มชาวต่างชาติ ที่มีความมั่งคั่งสูง
- กลุ่มชาวต่างชาติ ที่เกษียณอายุจากต่างประเทศ
- กลุ่มชาวต่างชาติ ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย
- กลุ่มชาวต่างชาติ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สามารถพำนักและทำงานในประเทศไทย
เงื่อนไขตามกฎหมายในการซื้ออสังหาริมทรัพย์สำหรับชาวต่างชาติ
- คอนโดมิเนียม(อาคารชุด)
ตาม พ.ร.บ.อาคารชุด (ฉบับที่4) พ.ศ. 2551 ชาวต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ได้ไม่เกิน 49% ของจำนวนยูนิตในคอนโดฯ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 1.5 ล้านยูนิตทั่วประเทศไทย ชาวต่างชาติครอบครองแล้วประมาณ 90,000 ยูนิต หรือ 7% ในปัจจุบัน
- บ้านและที่ดิน
ตามพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2542 ได้กำหนดให้ชาวต่างชาติสามารถครอบครองบ้านพร้อมที่ดินได้ไม่เกิน 1 ไร่ เมื่อนำเงินมาลงทุน 40 ล้านบาทขึ้นไป และต้องดำรงการลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี (ปัจจุบัน ครม.อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าวฯ ซึ่งแก้ไขระยะเวลาการดำรงการลงทุนเป็นไม่น้อยกว่า 3 ปี) ในธุรกิจหรือกิจการตามประเภทที่กำหนด หรือพิจารณาเพิ่มเติมในส่วนของประเภทการลงทุน จำนวนเงินลงทุน และระยะเวลาการดำรงทุน โดยให้เป็นไปตามกรอบของมาตรา 96 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
- ชาวต่างชาติมีสิทธิ์ซื้ออสังหริมทรัพย์ที่อยู่ในเขต กทม. เขตเมืองพัทยา เขตเทศบาล หรืออยู่ในบริเวณที่กำหนดเป็นเขตอยู่อาศัยตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง
- ชาวต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้ถือครองที่ดินหรืออสังหริมทรัพย์ เช่น บ้าน คอนโด ห้องชุด นั้นต้องใช้เพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น หากมีการตรวจสอบว่าผิดเงื่อนไขต้องขายคืน
ข้อมูลการถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดคนต่างชาติ (กรุงเทพฯ – ปริมณฑล) ปี 2564
- จีน 19,588 ล้านบาท
- วานูอาตู 1,111 ล้านบาท
- สิงคโปร์ 786 ล้านบาท
- ไต้หวัน 740 ล้านบาท
- สหรัฐอเมริกา 724 ล้านบาท
- อินเดีย 691 ล้านบาท
- สหราชอาณาจักร 623 ล้านบาท
เพราะประเทศไทยถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและค่าครองชีพค่อนข้างถูกในสายตาของชาวต่างชาติ อีกทั้งบรรยากาศความสวยงามของภูมิประเทศและเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของโลก จึงไม่แปลกที่ชาวต่างชาติต่างสนใจมาซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยหรือลงทุนสร้างธุรกิจ หวังว่ามาตรานี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ดีขึ้นเช่นกัน หากต้องการที่ปรึกษาทางด้านกฏหมาย หรือต้องการคำแนะนำในการจัดซื้ออสังหริมาทรัพย์ สามารถติดต่อได้ที่ Line : @balanceniti และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารหรือสาระน่ารู้ต่าง ๆ ของเราได้ที่ Facebook : Balance Niti Law Firm
เครดิต: https://www.reic.or.th/Knowledge/SuggestionHomeDetail/92
https://www.reic.or.th/Knowledge/SuggestionHomeDetail/92
https://www.bbc.com/thai/thailand-62161366
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220725192815198