เช็กรายการลดหย่อน ก่อนยื่นภาษี 2565

ใกล้สิ้นปีแบบนี้ได้เวลาเตรียมตัวยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีกันอีกแล้ว แต่ก่อนจะถึงเวลาควรศึกษาข้อมูลการลดหย่อนภาษีกันหน่อย เอาไว้ลดค่าภาษีที่จะต้องจ่ายให้กับกรมสรรพกร…เศรษฐกิจแบบนี้จ่ายน้อย ๆ ย่อมดีกว่าเนอะ แถมบางเคสอาจจะได้เงินภาษีฯ คืนด้วยนะ สำนักงานกฎหมาย Balanceniti จะชวนมาเช็กรายการลดหย่อนก่อนยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 2565 ไปด้วยกัน

 

ใครต้องยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ?

คนโสด

  • กรณีมีรายได้จากเงินเดือน ค่าจ้างเพียงอย่างเดียวเกินปีละ 120,000 บาทขึ้นไป
  • กรณีมีรายได้อื่น ๆ เช่น รายได้จากการขายของ ค่าลิขสิทธิ์ เงินปันผล การเป็นฟรีแลนซ์ ฯลฯ เพียงอย่างเดียวเกินปีละ 60,000 บาทขึ้นไป
  • กรณีมีรายได้จากเงินเดือน ค่าจ้าง และมีรายได้อื่น ๆ รวมกันเกินปีละ 60,000 บาทขึ้นไป

 

คนมีคู่

  • กรณีมีรายได้จากเงินเดือน ค่าจ้างเพียงอย่างเดียวเกินปีละ 220,000 บาทขึ้นไป
  • กรณีมีรายได้อื่น ๆ เช่น รายได้จากการขายของ ค่าลิขสิทธิ์ เงินปันผล การเป็นฟรีแลนซ์ ฯลฯ เพียงอย่างเดียวเกินปีละ 120,000 บาทขึ้นไป
  • กรณีมีรายได้จากเงินเดือน ค่าจ้าง และมีรายได้อื่น ๆ รวมกันเกินปีละ 120,000 บาทขึ้นไป

 

รายการลดหย่อนภาษีส่วนตัวและครอบครัว

 

1. ค่าลดหย่อนส่วนบุคคล คนละ 60,000 บาท

 

2. ค่าลดหย่อนจากคู่สมรสที่ไม่มีเงินได้ คนละ 60,000 บาท

  • สามี – ภรรยาต้องจดทะเบียนสมรส
  • คู่สมรสต้องไม่มีเงินได้ หรือมีเงินได้แต่เลือกนำมาคำนวณภาษีพร้อมกัน

 

3. ค่าลดหย่อนบุตร คนละ 30,000 บาท (ไม่จำกัดจำนวนบุตร)

  • บุตรตามกฎหมาย ลดหย่อนได้ไม่จำกัดจำนวนบุตร
  • บุตรบุญธรรม ลดหย่อนได้ไม่เกิน 3 คน
  • บุตรมีอายุอยู่ระหว่างแรกเกิดจนถึง 20 ปี ในปีภาษีนั้น
  • ถ้าบุตรมีอายุระหว่าง 21 – 25 ปี ต้องกำลังศึกษาในระดับอนุปริญญา (ปวส.) ขึ้นไป
  • ถ้าบุตรมีอายุ 25 ปีขึ้นไป ต้องเป็นบุคคลไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ

 

4. ค่าลดหย่อนบุตรคนที่ 2 เป็นต้นไป คนละ 30,000 บาท (เมื่อรวมกับค่าลดหย่อนบุตรอีก 30,000 บาท เท่ากับลดหย่อนบุตรคนที่ 2 รวม 60,000 บาท)

  • บุตรคนที่ 2 เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย คลอดตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป

 

5. ค่าลดหย่อนฝากครรภ์และคลอดบุตร ค่าใช้จ่ายตามจริงแต่ไม่เกิน 60,000 บาท/การคลอดบุตร 1 ครั้ง

  • ค่าใช้จ่ายฝากครรภ์และค่าคลอดบุตร ช่วงวันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2565
  • กรณีคลอดบุตรแฝด สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 60,000 บาท เพราะเป็นการตั้งครรภ์ครั้งเดียว

 

6. ค่าลดหย่อนพ่อแม่ คนละ 30,000 บาท สูงสุด 4 คน ไม่เกิน 120,000 บาท

  • บิดา-มารดาต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไป และมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี
  • บิดา-มารดาออกหนังสือรับรองการเลี้ยงดู (ลย.03) ให้กับบุตร
  • บุตรสามารถใช้สิทธิ์ได้เพียงคนเดียวเท่านั้น เช่น หากลูกคนโตใช้ไปแล้ว ลูกคนอื่น ๆ ก็ไม่สามารถใช้สิทธิ์นี้ได้อีก

 

7. ค่าลดหย่อนอุปการะคนพิการหรือคนทุพพลภาพ คนละ 60,000 บาท

  • ต้องเป็นผู้ที่ดูแลคนพิการตามกฎหมาย
  • ผู้พิการต้องมีบัตรประจำตัวคนพิการตามกฎหมาย
  • หากผู้พิการหรือทุพพลภาพเป็นบิดา-มารดา-บุตร-คู่สมรส สามารถใช้สิทธิ์ควบคู่กันได้

 

 

รายการลดหย่อนภาษีกลุ่มค่าประกัน การออม และการลงทุน

1. ค่าลดหย่อนประกันสังคม

  • มาตรา 33 ลดหย่อนได้สูงสุด 6,300 บาท
  • มาตรา 39 ลดหย่อนได้สูงสุด 3,585 บาท
  • มาตรา 40 ลดหย่อนด้ไม่เกิน 644 – 2,760 บาท

มูลค่าลดหย่อนมีการปรับเปลี่ยนจากปีอื่น ๆ เนื่องจากมีการปรับลดเงินสมทบประกันสังคมในเดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม 2565 และตุลาคม – ธันวาคม 2565

 

2. ค่าลดหย่อนประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ หรือเงินฝากเพื่อสงเคราะห์ชีวิต ค่าใช้จ่ายตามจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท

ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์

  • ต้องเป็นประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
  • มีเงินปันผลหรือเบี้ยคืนรายปี ไม่เกิน 20% ของเบี้ยสะสม
  • ต้องเป็นกรมธรรม์ที่ซื้อจากบริษัทประกันชีวิตที่ดำเนินกิจการในไทย

เงินฝากเพื่อสงเคราะห์ชีวิต

  • ต้องเปิดบัญชีเงินฝากเพื่อสงเคราะห์ชีวิต (ปัจจุบันมี 2 ธนาคาร คือ ออมสิน และ ธ.ก.ส.)
  • ฝากเงินตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
  • ได้รับเงินหรือผลประโยชน์ตอบแทนคืนทุกปี ต้องไม่เกิน 20% ของเงินฝากรายปี
  • มีหลักฐานจากธนาคารผู้รับฝากเงิน
  • หักลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่ฝากเงินจริง แต่รวมกับเงินค่าเบี้ยประกันชีวิต ต้องไม่เกิน 100,000 บาท

 

3. ค่าลดหย่อนประกันชีวิตคู่สมรสที่ไม่มีเงินได้ ค่าใช้จ่ายตามจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท

 

4. ค่าลดหย่อนประกันสุขภาพตัวเอง ไม่เกิน 25,000 บาท/ปี รวมเบี้ยประกันชีวิตและเงินฝากสงเคราะห์ชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท

 

5. ค่าลดหย่อนประกันสุขภาพพ่อแม่ ค่าใช้จ่ายตามจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท

  • ต้องเป็นบุตรตามกฎหมายเท่านั้นบิดา-มารดาต้องไม่มีเงินได้พึงประเมินในปีภาษีที่ขอหักลดหย่อนเกิน 30,000 บาทขึ้นไป
  • บุตรสามารถใช้สิทธิ์ได้หลายคนโดยหารเฉลี่ยเท่า ๆ กัน

6. ค่าลดหย่อนประกันชีวิตแบบบำนาญ ลดหย่อน 15% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท

  • เป็นประกันที่มีระยะเวลาเอาประกัน 10 ปีขึ้นไป
  • จ่ายผลตอบแทนให้ผู้เอาประกันตั้งแต่อายุ 55 ปี ต่อเนื่องไปจนถึงอายุ 85 ปี หรือมากกว่านั้น
  • เมื่อรวมค่าเบี้ยประกันที่จ่ายให้กับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ, กองทุนสงเคราะห์, กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF), หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) แล้ว ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

 

7. ค่าลดหย่อนภาษีกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF หรือ Super Savings Fund) ลดหย่อนสูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท

  • จำนวนเงินที่ซื้อกองทุน SSF เมื่อรวมกับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF), กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.), กองทุนครูโรงเรียนเอกชน, กองทุนการออมแห่งชาติ และประกันชีวิตแบบบำนาญ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท/ปี

 

8. ค่าลดหย่อนภาษีกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF หรือ Retirement Mutual Fund)

ลดหย่อนสูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 500,000 บาท

  • เมื่อซื้อ RMF รวมกับกองทุนรวม SSF + กบข. + กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ + กองทุนครูโรงเรียนเอกชน + ประกันชีวิตแบบบำนาญ + กองทุนการออมแห่งชาติ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

 

9. ค่าลดหย่อนภาษีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินปีละ 10,000 บาท

 

10. ค่าลดหย่อนภาษีกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ลดหย่อนภาษีได้เท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้

  • เมื่อรวมกับกองทุนรวม SSF, กบข., RMF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, ประกันชีวิตแบบบำนาญ, กองทุนการออมแห่งชาติ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

 

12. ค่าลดหย่อนภาษีกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ตามจำนวนที่จ่ายจริง สูงสุดปีละ 13,200 บาท

  • เมื่อรวมกับกองทุนรวม SSF, กบข., RMF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, ประกันชีวิตแบบบำนาญ, กองทุนครูโรงเรียนเอกชน ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

 

13. ลดหย่อนภาษี เงินลงทุนธุรกิจ Social Enterprise (วิสาหกิจเพื่อสังคม) ตามจำนวนที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท

  • สำหรับบุคคลธรรมดาที่ลงหุ้น หรือลงทุน (ทั้งกรณีจัดตั้งและเพิ่มทุน) ในธุรกิจ Social Enterprise (วิสาหกิจเพื่อสังคม) โดยธุรกิจนั้นต้องจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมประเภทไม่ประสงค์แบ่งปันกำไร
  • ผู้ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีต้องถือหุ้นหรือเป็นหุ้นส่วนจนกว่าวิสาหกิจเพื่อสังคมนั้นเลิกกิจการ เว้นแต่กรณีที่กำหนด

 

รายการลดหย่อนภาษี กลุ่มอสังหาริมทรัพย์

  1. ค่าลดหย่อนภาษีดอกเบี้ยบ้าน ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
  • เป็นดอกเบี้ยจากเงินกู้การเช่าซื้อบ้าน คอนโด หรือที่อยู่อาศัย
  • หากมีการกู้สำหรับที่อยู่อาศัยมากกว่า 1 แห่ง สามารถใช้ลดหย่อนรวมกันได้ทุกแห่ง แต่ต้องไม่เกิน 100,000 บาท
  • กรณีกู้ร่วมกันหลายคน ก็ให้แบ่งดอกเบี้ยคนละเท่า ๆ กัน โดยไม่สนใจว่าผู้กู้ร่วมมีรายได้ที่จะเสียภาษีหรือไม่ และรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท

 

 

 

รายการลดหย่อนภาษี กลุ่มเงินบริจาค

กลุ่มเงินบริจาคที่ใช้ลดหย่อนจำนวน 2 เท่าของจำนวนเงินบริจาค แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้

1. เงินบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษา

2. เงินบริจาคให้แก่สถานพยาบาลของรัฐ

3. เงินบริจาคสนับสนุนการกีฬา

4. เงินบริจาคเพื่อการพัฒนาสังคม

5. เงินบริจาคให้แก่มูลนิธิด้านสาธารณสุข

  • มูลนิธิโรคมะเร็ง โรงพยาบาลศิริราช
  • มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี
  • มูลนิธิสมเด็จพระปิ่นเกล้า
  • มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
  • มูลนิธิโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
  • มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กองทัพเรือ ในพระบรมราชินูปถัมภ์
  • มูลนิธิชัยพัฒนา
  • มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
  • มูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

 

กลุ่มเงินบริจาคที่ใช้ลดหย่อนตามจำนวนเงินบริจาคจริง

1. เงินบริจาคให้กองทุนส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้

2. เงินบริจาคทั่วไป สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้

3. เงินบริจาคให้พรรคการเมือง สูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท

 

รายการลดหย่อนภาษี ช้อปดีมีคืน

  • สามารถลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท
  • สินค้าจากร้านค้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%) เช่น ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เกต ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารที่จดทะเบียน VAT หรือร้านค้าทั่วไปที่ออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปได้เท่านั้น

 

ก่อนยื่นภาษีปี 2565 อย่าลืมเช็กลิสต์รายการลดหย่อนภาษีและเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน เพื่อความรวดเร็วสามารถยื่นภาษีออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ https://www.rd.go.th/272.html หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อกฎหมาย หรือต้องการผู้ตรวจสอบเอกสารและดำเนินการส่งเอกสารภาษีของนิติบุคคลสามารถติดต่อได้ที่ Line : @balanceniti และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารหรือสาระน่ารู้ต่าง ๆ ของเราได้ที่ Facebook : Balance Niti Law Firm

 

เครดิต: https://money.kapook.com/view259686.html

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *