เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 65 ที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้ระบุว่า “โครงการช้อปดีมีคืน” ทางกระทรวงการคลังประเมินว่ายังเป็นโครงการที่น่าสนใจ เพราะเป็นการใช้ระบบภาษี ซึ่งสามารถกระตุ้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนมีรายได้สูงในระบบภาษีได้ อีกทั้ง ยังมีความชัดเจนเรื่องเป้าหมาย และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจจริง
ระหว่างนี้ทางกระทรวงการคลังกำลังประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป หากดำเนินการแล้วเสร็จจะเสนอครม. ก่อนช่วงปีใหม่แน่นอน
ว่าแต่…โครงการช้อปดีมีคืนคืออะไร ? มีเงื่อนไขอะไรบ้าง ? คาดว่าจะใช้ได้ช่วงเวลาไหน ?
วันนี้ BalanceNiti ก็ได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับโครงการนี้มาไว้ในบทความนี้แล้ว
ช้อปดีมีคืน คืออะไร ?
มาตรการช้อปดีมีคืน เป็นการซื้อสินค้าหรือค่าบริการในแต่ละครั้งหากมีมูลค่าไม่ถึง 30,000 บาท สามารถนำการซื้อหลายครั้งมารวมกันได้ แต่ใช้สิทธิได้ไม่เกิน 30,000 บาท สำหรับบุคคลธรรมดาเท่านั้น ไม่รวมห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล แต่ไม่รวมถึงค่าสินค้าและบริการบางชนิด เช่น ค่าสุรา เบียร์ และไวน์ ค่ายาสูบ ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ ค่าบริการจัดนำเที่ยว ค่าที่พักในโรงแรม ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย เป็นต้น
ช้อปดีมีคืน มีเงื่อนไขอะไรบ้าง ?
- หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือ ค่าบริการเท่าที่ได้จ่ายตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท
- ผู้ใช้สิทธิ์ ต้องซื้อสินค้ากับผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
- ต้องมีใบเสร็จรับเงิน หรือใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่มเต็มรูปแบบ จากการซื้อสินค้า เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการขอลดหย่อนภาษี
- ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่สามารถใช้สิทธิ์มาตรการนี้ได้
- สำหรับการซื้อสินค้าหรือการรับบริการในราชอาณาจักร
ช้อปดีมีคืนคาดเริ่มใช้เมื่อไหร่ ?
ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 40,000 บาท คาดเริ่มใช้วันที่ 1 มกราคม 2566 – 15 กุมภาพันธ์ 2566
ช้อปดีมีคืน ซื้ออะไรได้บ้าง?
- ค่าสินค้า
- ค่าบริการ
- ค่าสินค้า OTOP
ช้อปดีมีคืน ซื้ออะไรไม่ได้บ้าง?
- ค่าสุรา เบียร์ และไวน์
- ค่ายาสูบ
- ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ
- ค่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
- ค่าหนังสือพิมพ์และนิตยสาร
- ค่าบริการ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
- ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์
- ค่าที่พักในโรงแรมที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม
- ค่าสาธารณูปโภค
- ค่าน้ำประปา
- ค่าไฟฟ้า
- ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
- ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย
การลดหย่อนภาษี “ช้อปดีมีคืน”
| เงินได้สุทธิ | อัตราภาษี | สิทธิได้คืนภาษีสูงสุด (บาท) |
| 0-150,000 บาท | ได้รับการยกเว้นภาษี | ไม่ได้ประโยชน์จากโครงการ “ช้อปดีมีคืน” |
| 150,001-300,000 บาท | 5% | 1,500 |
| 300,001-500,000 บาท | 10% | 3,000 |
| 500,001-750,000 บาท | 15% | 4,500 |
| 750,001-1,000,000 บาท | 20% | 6,000 |
| 1,000,001-2,000,000 บาท | 15% | 7,500 |
| 2,000,001-5,000,000 บาท | 30% | 9,000 |
| 5,000,001 บาทขึ้นไป | 35% | 10,500 |
นับว่าเป็นอีก 1 โครงการที่เรียกความสนใจให้นักช้อปไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว แม้ตอนนี้จะยังไม่มีประกาศที่แน่ชัด แต่ก็ขอให้ทุกคนติดตามข้อมูลนี้ไว้ และถ้าหากต้องการปรึกษาคดีความ ดำเนินการทางกฎหมาย หรือต้องการทราบข้อมูลที่เกี่ยวกับกฎหมาย ติดต่อได้ที่ Line : @balanceniti และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารหรือสาระน่ารู้ต่าง ๆ ของเราได้ที่ Facebook : Balance Niti Law Firm
เครดิต: Tax-EZ | มาตรการ “ช้อปดีมีคืน” (ภาษีบุคคลธรรมดา) ปี 2566
ช้อปดีมีคืน 2566..ช้อปอย่างไรให้ได้เงินคืนมากที่สุดดด (accrevo.com)